WORKING OF WEB APPLICATIONS

Working of Web Applications

WORKING OF WEB APPLICATIONS

เว็บแอปพลิเคชัน หรือที่เรียกว่าเว็บแอป เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดำเนินการออนไลน์ได้ ธุรกิจจำนวนมากใช้โปรแกรมเหล่านี้เพื่อสื่อสารกับลูกค้า ขายสินค้า และปรับปรุงกระบวนการทำงาน การทำความเข้าใจว่าเว็บแอปพลิเคชันคืออะไรสามารถช่วยให้คุณเข้าใจบทบาทของเทคโนโลยีในที่ทำงานมากขึ้น

Web Applications ?

เว็บแอปพลิเคชัน คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ใช้เว็บเบราว์เซอร์เพื่อทำหน้าที่เฉพาะ เป็นโปรแกรมไคลเอ็นต์เซิร์ฟเวอร์ ดังนั้นแต่ละโปรแกรมจึงมี  ฝั่งไคลเอนต์ และฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ในสภาพแวดล้อมแบบ ไคลเอนต์-เซิร์ฟเวอร์ client เป็นโปรแกรมที่แต่ละคนใช้ เพื่อเรียกใช้ Applications ในขณะที่ server ประมวลผลข้อมูลที่จำเป็นในการเรียกใช้ Applications สำหรับผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น ฐานข้อมูล client คือโปรแกรมที่ผู้ใช้ป้อนข้อมูลผ่าน และ server คือ Applications ที่เก็บข้อมูล

Web Applications ทำอะไรได้บ้าง ?

เนื่องจากสามารถ Custom ได้ เว็บแอปพลิเคชันจึงสามารถช่วยให้ผู้ใช้ทำงานต่างๆ ได้สำเร็จ รวมถึง :

– Design Projects

– Workspace Tool

– Shopping

– Emails

– Watch

– Social Media

– Multimedia

– Games

Web Applications ทำงานอย่างไร ?

มีสามองค์ประกอบในแต่ละ Web Applications : เว็บเซิร์ฟเวอร์สำหรับจัดการคำขอจากลูกค้า server application เพื่อดำเนินการงานที่ร้องขอ และฐานข้อมูลเพื่อจัดเก็บข้อมูล Web Applications ใช้การประมวลผลฝั่ง server และ clientร่วมกันในการทำงาน

Server Application เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บ และดึงข้อมูล และต้องใช้  ภาษาการเข้ารหัส พิเศษ นักพัฒนาตั้งโปรแกรมฝั่งเซิร์ฟเวอร์เพื่อสร้างสคริปต์ที่ Web Applications สามารถใช้เพื่อตอบสนองคำขอ client เกี่ยวข้องกับการนำเสนอข้อมูลแก่ User และ ใช้ภาษาเขียนโค้ดของตนเอง

วิธีการทำงานของ Web Applications :

  • ใช้สร้างคำขอไปยัง Server Application ผ่าน User Interface ของ Web Applications
  • Web Applications มีหน้าที่ส่งคำขอไป Server Application เพื่อประมวลผลกับ DataBase
  • Server Application เรียกใช้งานตามที่ร้องขอจาก User Interface  จากนั้น Web Applications จะสร้างผลลัพธ์ของข้อมูลที่จำเป็นให้กับ User

Web Applications Vs. Native Applications

Native Applications คือ Applications ที่พัฒนาขึ้นสำหรับ Platform หรืออุปกรณ์เฉพาะ ในการติดตั้ง พวกเขาต้องการซอฟต์แวร์เฉพาะ เช่น บริษัทที่พัฒนา Tablet หน้าจอสัมผัสอาจสร้าง Applications Design Image ที่เข้ากันได้กับ Tablet หรือ อุปกรณ์ workshop

Applications บางตัวเรียกว่า Hybrid Applications รวมคุณสมบัติของ Applications ดั้งเดิม และ Server Application ผู้ใช้ติดตั้ง Hybrid Applications บนอุปกรณ์ แต่ Applications ยังใช้การเชื่อมต่อ Internet เพื่อเข้าถึงคุณลักษณะ และข้อมูลต่างๆ Hybrid Applications ยังสามารถใช้ทรัพยากรเฉพาะอุปกรณ์เพื่อประโยชน์ของพวกเขา ทั้ง Web Applications และ Hybrid Applications ต้องใช้การเชื่อมต่อบรอดแบนด์ หรือไร้สาย

ประโยชน์ของการใช้ Web Applications

ต่อไปนี้คือประโยชน์บางประการของการใช้ Web Applications ในที่ทำงาน : การจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพ Web Applications เก็บข้อมูลไว้บน Server คุณจึงไม่ต้องติดตั้งบนฮาร์ดไดรฟ์ หรืออุปกรณ์ ความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลออนไลน์ช่วยให้บริษัทสามารถทำงานได้โดยไม่มีข้อจำกัดในการจัดเก็บ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในบริษัทที่อยู่ห่างไกลหรือแบบผสมผสาน

พนักงานที่ทำงานจากที่บ้านมักจะใช้คอมพิวเตอร์ หรือ Laptop ที่บ้านเพื่อทำงานให้เสร็จ ดังนั้นพวกเขาจึงอาจไม่มีฮาร์ดไดรฟ์ที่แข็งแกร่งพอที่จะจัดเก็บ Applications ที่มาพร้อมเครื่อง หากมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียร ก็จะสามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการทำงานได้ทันที

ปัญหา Web Applications

เนื่องจาก Web Applications ทำงานโดยใช้ Browser จึงมักเข้าถึงได้จากอุปกรณ์หลายประเภท แม้ว่า Native Applications ต้องการระบบปฏิบัติการ และซอฟต์แวร์บางอย่าง แต่เว็บแอปพลิเคชันก็ใช้ได้กับทุกคนที่สามารถเข้าถึง Browser ที่รองรับได้ บ่อยครั้งที่บริษัทต่างๆ ขอให้พนักงานใช้ Browser เดียวกันเมื่อเข้าถึง Applications บางอย่าง เพื่อให้ข้อมูลมีลักษณะเหมือนกันสำหรับทุกคนที่ใช้ Applications แต่ Browser ส่วนใหญ่นั้นฟรี และปรับให้เข้ากับคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้หลากหลายประเภท หากพนักงานไม่สามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ปกติได้ พวกเขายังคงทำงานให้เสร็จได้โดยใช้อุปกรณ์อื่น

Web Applications ใช้ต้นทุนต่ำ

การใช้ Web Applications สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านไอทีสำหรับบริษัทต่างๆ ได้ เนื่องจากโปรแกรมเหล่านี้ไม่ต้องใช้ฮาร์ดไดรฟ์ หรือโปรแกรมเฉพาะในการทำงาน โปรแกรมเหล่านี้หลายโปรแกรมทำงานแบบสมัครสมาชิก ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกจำนวนผู้ใช้ที่ต้องการสนับสนุนในแต่ละเดือน หรือรายปีด้วยผลิตภัณฑ์

ตัวอย่างเช่น บริษัทที่มีพนักงานจากระยะไกลอาจใช้ Web Applications สำหรับการจัดการโครงการ เมื่อบริษัทเติบโต และเพิ่มผู้จัดการโครงการให้กับพนักงาน ผู้อำนวยการฝ่ายไอทีอาจเพิ่มจำนวนใบอนุญาตสำหรับ Web Applications ลูกค้าจึงจ่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาวางแผนจะใช้เท่านั้น

การปรับปรุงอัตโนมัติ

การเชื่อมต่อของ Web Applications กับ Internet ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเปิดใช้การอัปเดตได้บ่อยครั้ง โดยไม่ต้องขอให้ผู้ใช้ทำอะไรเลย การอัปเดตเหล่านี้ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้จะได้รับข้อมูลล่าสุด แก้ไขข้อบกพร่องและปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ แม้ว่า Applications ที่มาพร้อมเครื่องมักจะมีกระบวนการอัปเดตที่ยาวนาน แต่ Web Applications มักจะอัปเดตค่อนข้างเร็วหากผู้ใช้มีการเชื่อมต่อ Internet ที่รวดเร็ว ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้สามารถอัปเดต Applications ได้บ่อยโดยไม่พลาดเวลาทำงาน

website design is

เว็บไซต์ดีไซน์ WEBSITE DESIGN , CUSTOM WEB DESIGNS

เว็บไซต์ดีไซน์ ออกแบบเว็บไซต์ จัดทำเรื่องราวจากข้อมูลที่มีอยู่ ให้สือสารได้อย่างเข้าใจในรูปแบบที่ทันสมัย กราฟิค สีสัน Layout จะถูกออกแบบสร้างสรรค์มีจิตนาการ นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจอีกมากมายที่ยังต้องการเเว็บไซต์ดีไซน์ เพราะการพัฒนาของ Technology ไปอย่างรวดเร็ว ยังกะจรวดของ Elon Musk  เช่นเดียวกับโลกออนไลน์ที่มีการแข่งขันที่สูงมาก WEBSITE DESIGN จึงเป็นเหมือนพอร์ตโฟลิโอ แสดงผลิตภัณฑ์หรือบริการของธุรกิจ หรือห้างร้าน หรือตัวบุคคลเอง ให้การสื่อสารส่งสารออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอ นอกจากนี้ WEBSITE DESIGN แล้วความสามารถในการ CUSTOM

Read More »
VIRAL MARKETING

VIRAL MARKETING

Viral Marketing การตลาดแบบปากต่อปาก สร้างกระแสให้เกิดผลกระทบกับผู้คน จนเกิดการพูดถึงและบอกต่อ ส่งผลให้มีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เปรียบเหมือนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในรูปแบบของข้อมูลข่าวสาร โดยอาศัยอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อกลางเพื่อทำให้แบรนด์สินค้าและบริการเป็นที่รู้จักมากขึ้น การทำ Viral Marketing โดยผ่านช่องทางไม่ว่าจะเป็นทาง Social Media , Blog  หรือ E-mail ด้วยวิธีต่างๆมากมาย – Text Messages : ใช้ข้อความในการทำตลาด พร้อมสื่อประกอบอื่นๆ ให้เกิดความน่าสนใจ

Read More »

SEO Exotic คือ กลยุทธ์การทำ Search Engine Optimization (SEO)

SEO Exotic คือ กลยุทธ์การทำ Search Engine Optimization (SEO) ที่เน้นความสร้างสรรค์ และความแตกต่าง โดยใช้เทคนิคที่ไม่เหมือนใครเพื่อปรับปรุงอันดับเว็บไซต์ในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา เช่น Google มุ่งเน้นการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเฉพาะด้วยเนื้อหาที่มีข้อมูลเชิงลึกและไม่ซ้ำกับกระแสหลัก เทคนิคที่ใช้รวมถึง:   • การเลือกคำหลักเฉพาะเจาะจง : เน้นคำค้นหาที่ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย เช่น “เทคโนโลยี AI สำหรับ SME”

Read More »

TTT-WEBSITE บริการรับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ พัฒนาเว็บไซต์ และบริการ SEO พร้อมเสริมความปลอดภัยจาก AFRA APACHE

การมีเว็บไซต์ที่ดี และน่าเชื่อถือกลายเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับธุรกิจในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรมหาชน ดังนั้นหลายบริษัท และเอเจนซี จึงได้พัฒนาบริการรับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ พัฒนาเว็บไซต์ และบริการทำ SEO เพื่อให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วโลก เพิ่มยอดขาย ตลอดจนสร้างแบรนด์ให้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง   จุดเด่นของบริการรับทำเว็บไซต์ ดีไซน์สวยงาม และใช้งานง่าย (User Friendly & Responsive Design) เว็บไซต์ควรรองรับทุกขนาดหน้าจอ ทั้งมือถือ แท็บเล็ต

Read More »
Google Display Network

GDN ย่อมาจาก Google Display Network เครื่องมือโฆษณาของ Google

GDN ย่อมาจาก Google Display Network เครื่องมือโฆษณาของ Google ไม่ว่าคุณจะท่องอินเทอร์เน็ต เช็ค Gmail หรือดูวิดีโอโปรด Google Display Network จะแสดงโฆษณาเห็นว่าเกี่ยวข้องกับคุณในขณะที่คุณทำทุกอย่างทางออนไลน์ โฆษณาแบบรูปภาพเป็นแบบรูปภาพ และกำหนดเป้าหมายผู้ที่สนใจสินค้าของคุณแต่ไม่ได้ค้นหาอย่างจริงจัง ในทางตรงกันข้าม โฆษณาบนเครือข่ายการค้นหาเป็นแบบข้อความและอนุญาตให้คุณกำหนดเป้าหมายคำหลักเฉพาะได้ เมื่อมีผู้ใช้งานดูแอปบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟน  หรือเข้าชมเว็บไซต์ ผู้ใช้งานมักจะพบกับแคมเปญดิสเพลย์ หรือ โฆษณาที่เป็นรูปภาพ รูปภาพไฟล์

Read More »

ปลดล็อกพลังการทำงานอัตโนมัติบนเว็บไซต์ด้วย Playwright

ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยเว็บไซต์ การทำงานซ้ำๆ บนเว็บเบราว์เซอร์ เช่น การกรอกฟอร์ม, การดึงข้อมูล, หรือการทดสอบการทำงานของฟีเจอร์ต่างๆ ถือเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองเวลาและมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย เครื่องมือที่เรียกว่า “Browser Automation” จึงถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้ และหนึ่งในเครื่องมือที่ทันสมัย และทรงพลังที่สุดในปัจจุบันคือ Playwright Playwright คืออะไร? Playwright คือเฟรมเวิร์ก (Framework) แบบ Open-source ที่พัฒนาโดย Microsoft ออกแบบมาเพื่อควบคุมเว็บเบราว์เซอร์โดยอัตโนมัติผ่านการเขียนโค้ด

Read More »